Per Kid's Program
Where learning comes alive through fun and exploration!
ให้บริการทั้งในคลินิก และการบริการที่บ้าน (ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล)
กิจกรรมบำบัด เรียนตัวต่อตัว 1:1
Private Class : OT
: ระยะเวลา 45, 60, 90 นาที/ครั้ง โปรแกรมการเรียนรู้แบบตัวต่อตัวของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล โดยส่งเสริมและบูรณาการพัฒนาการของเด็กในทุกด้านอย่างครบถ้วน เรามุ่งเน้นการพัฒนาทักษะทางสังคม อารมณ์ การสื่อสาร และการเคลื่อนไหว เพื่อให้เด็กสามารถเติบโตและพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ เด็กๆ จะได้รับโอกาสในการเลือกกิจกรรมที่ตรงกับความสนใจและความสามารถของตน เช่น การทำงานศิลปะ การเล่นเกมที่ใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ นอกจากนี้ โปรแกรมยังมุ่งเน้นการสร้างความมั่นใจในตนเองและการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และส่งเสริมความคิดขั้นสูง (EF) นักกิจกรรมบำบัดที่มีประสบการณ์จะทำงานร่วมกับผู้ปกครองเพื่อกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวางแผนการเรียนรู้ที่เหมาะสม โดยการใช้เทคนิคต่างๆ ที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการมีส่วนร่วม เด็กๆ จะได้เรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนา ทำให้สามารถคงสมาธิและสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ได้ นอกจากนี้ เรายังมีการติดตามและประเมินผลการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าการเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และสามารถปรับเปลี่ยนโปรแกรมให้เหมาะสมกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้เด็กๆ ได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้าน
กิจกรรมเสริมทักษะการบูรณาประสาทรับความรู้สึก
Sensory Play Class
: ระยะเวลา 45, 60 นาที/ครั้ง ออกแบบกิจกรรมการเล่นที่มุ่งเน้นการพัฒนาประสาทสัมผัส (sensory play) เป็นกิจกรรมที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เด็กใช้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น การทรงท่า การเคลื่อนไหว การมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส การดมกลิ่น และการรับรส ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการเรียนรู้ โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กเล็ก การเล่นในรูปแบบนี้ช่วยให้เด็กได้สำรวจโลกโดยรอบอย่างอิสระและส่งเสริมการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างกิจกรรม ได้แก่ การเล่นน้ำ การเล่นทราย การใช้วัสดุที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น เจลหรือแป้ง รวมถึงการทำอาหารที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสและการดมกลิ่น กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้เด็กได้รับความสนุกสนาน แต่ยังส่งเสริมทักษะทางร่างกาย เช่น การเคลื่อนไหว การประสานงานระหว่างมือและตา รวมถึงการพัฒนาสมาธิ นอกจากนี้ การเล่นร่วมกับเพื่อน ๆ ยังเป็นการพัฒนาอารมณ์และทักษะทางสังคม โดยส่งเสริมความสัมพันธ์ การสื่อสาร การแบ่งปัน และการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถในการเข้ากับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมการส่งเสริมการเล่นที่มุ่งเน้นประสาทสัมผัสนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความสนุกสนาน แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตของเด็กในการพัฒนาให้เป็นผู้ที่มีศักยภาพและสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ได้อย่างดี
กิจกรรมกลุ่มทักษะสังคม เรียนรู้การแบ่งปัน
Social Play Group
: ระยะเวลา 90, 120 นาที/ครั้ง โปรแกรมกิจกรรมกลุ่มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นทักษะการเข้าสังคม โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเด็กในด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมสังคมทั้งในโรงเรียนและที่อื่นๆ กิจกรรมได้รับการวางแผนและวิเคราะห์โดยนักกิจกรรมบำบัด นักจิตวิทยา และครูการศึกษาพิเศษ ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะในการรอคอย การอยู่ร่วมกับผู้อื่น การเคารพกฎกติกา และการรับผิดชอบต่อหน้าที่ในกลุ่ม รวมถึงการควบคุมตนเอง การเล่นที่ส่งเสริมความคิดขั้นสูง (EF) และการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงทักษะทางภาษาและการแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ การพัฒนาทักษะ EQ (อารมณ์) และ EF (การควบคุมตนเอง) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเตรียมเด็กเข้าสู่สังคมและการทำงานในอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานร่วมกับผู้อื่นมีความสำคัญ ทักษะ EQ จะช่วยให้เด็กเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น ซึ่งสามารถพัฒนาได้จากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางอารมณ์ เช่น การเล่นบทบาทสมมติที่ช่วยให้เด็กสัมผัสกับสถานการณ์จริงและเรียนรู้การตอบสนองที่เหมาะสม นอกจากนี้ การทำกิจกรรมกลุ่มยังช่วยให้เด็กฝึกการฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและเรียนรู้ที่จะยอมรับความแตกต่าง ส่วนทักษะ EF การพัฒนาให้เด็กมีความสามารถในการวางแผน ตั้งเป้าหมาย และควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถจัดการกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ กิจกรรมต่างๆ เช่น การทำงานประดิษฐ์หรือเกมที่ต้องใช้การวางแผนและการทำงานเป็นทีม จะช่วยเสริมสร้างทักษะเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการกับอารมณ์เมื่อเผชิญกับความท้าทาย เช่น การรอคอย หรือการยอมรับผลที่ไม่เป็นไปตามคาดหมาย จะช่วยให้เด็กพัฒนาความยืดหยุ่นและความมั่นใจในตนเอง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวในอนาคต และ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ EQ และ EF จะช่วยให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถในการจัดการกับชีวิตและการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขในอนาคต
กระตุ้นรับรู้ความเข้าใจเข้าใจและสื่อสารทางภาษา
Language & Communicate
: ระยะเวลา 45, 60 นาที/ครั้ง พัฒนาการทางภาษาของเด็กเป็นเรื่องที่สำคัญมากในช่วงปีแรก ๆ ของชีวิต เด็กจะเริ่มมีความสามารถในการเข้าใจและใช้ภาษาอย่างรวดเร็วในช่วงอายุ 1-2 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมองของเด็กมีการพัฒนาอย่างมาก เด็กจะเริ่มพูดคำแรกและสามารถเข้าใจคำสั่งง่าย ๆ ได้ เมื่อเด็กเข้าสู่วัยสามขวบ ความสามารถในการใช้ภาษาจะพัฒนาอย่างเต็มที่ เด็กจะเริ่มสร้างประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้น และสามารถสื่อสารความคิดหรือความรู้สึกของตนได้ดีขึ้น การส่งเสริมการใช้ภาษาจึงมีความสำคัญ เพื่อช่วยให้เด็กมีคลังคำศัพท์ที่หลากหลาย และสามารถสื่อสารได้อย่างมีเหตุผล โปรแกรมกระตุ้นความเข้าใจและการสื่อสารทางภาษาจึงถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการด้านนี้ โดยมีการกระตุ้นให้เด็กได้เล่น และเรียนรู้ผ่านการพูดคุย การอ่านหนังสือ และการเล่นเกมที่ใช้ภาษา นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนเด็กที่มีความล่าช้าในด้านการสื่อสาร โดยการให้บริการจากนักกิจกรรมบำบัดและนักแก้ไขการพูด เพื่อวิเคราะห์และช่วยพัฒนาโครงสร้างอวัยวะภายในช่องปากสำหรับการออกเสียง การเล่นอย่างมีจินตนาการและการทำกิจกรรมที่กระตุ้นการใช้ภาษา จะช่วยให้เด็กสามารถพัฒนาทักษะการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ในอนาคตของเด็ก
กิจกรรมส่งเสริมการเขียน ทักษะการใช้มือ
Writing & Hand Function
: ระยะเวลา 30, 45 นาที/การพัฒนา กล้ามเนื้อมัดเล็กมีความสำคัญมาก ในชีวิตประจำวันของเด็ก การเสริมสร้างทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของมือและตา ช่วยให้เด็กสามารถทำกิจกรรมที่ต้องการความละเอียด และการประสานงานได้ดี เช่น การเขียน การรับประทานอาหาร และการแปรงฟัน นักกิจกรรมบำบัดจะออกแบบกิจกรรมการเล่นตามความสามารถของแต่ละบุคคล เพื่อสร้างพื้นฐานการบูรณาการประสาทความรู้สึกในมือ การจดจ่อทางสายตา และการสลับช่วงความสนใจ โดยมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์เพื่อการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวกับความแข็งแรง ความทนทาน ความคล่องแคล่ว และการประสานงานระหว่างร่างกายส่วนต่าง ๆ รวมถึงการประสานกันระหว่างมือและตา กล้ามเนื้อมัดเล็กมีความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของเด็ก โดยเฉพาะในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความละเอียด เช่น การวาดภาพและการทำงานฝีมือ การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการควบคุมอุปกรณ์ศิลปะหรือวัสดุสำหรับงานฝีมือ ช่วยเสริมสร้างสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก นอกจากนี้ยังช่วยในการพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวที่ประณีต ซึ่งจำเป็นสำหรับการเขียน การใช้กรรไกร หรือการประกอบชิ้นงานต่าง ๆ การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจ และความรับผิดชอบ ให้กับเด็กในการจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันอีกด้วย การฝึกฝนกล้ามเนื้อมัดเล็กตั้งแต่อายุยังน้อย จะนำไปสู่การพัฒนาที่ดีในด้านการศึกษาและความมั่นใจในการเข้าสังคม
ส่งเสริมกล้ามเนื้อมัดใหญ่ วางแผนการเคลื่อนไหว
Gross Motor Skill & Movement
: ระยะเวลา 30, 45 นาที/ครั้ง การส่งเสริมพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ และการวางแผนการเคลื่อนไหว มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในการเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถในการทรงตัว ความแข็งแรง ความทนทาน และการทำงานร่วมกันของร่างกายทั้งสองซีก กิจกรรมการเล่นจะถูกออกแบบตามความสามารถของแต่ละบุคคลโดยนักกิจกรรมบำบัด เพื่อสร้างพื้นฐานการบูรณาการประสาทสัมผัส ช่วยปลดปล่อยพลังงาน และปรับพฤติกรรมการกระตุ้นร่างกายสำหรับเด็กออทิสติก เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น และเพื่อเสริมทักษะให้กับเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า รวมถึงเด็กที่มีภาวะเอ็นข้อหย่อน โดยมีเป้าหมายให้เด็กสามารถพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และวางแผนการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนได้เหมาะสมตามวัย การพัฒนาด้านนี้ยังมีความสำคัญต่อการส่งเสริมความสามารถในการจดจ่อ ช่วงความสนใจ การรักษาสมาธิ และการพัฒนาความคิดขั้นสูง (EF) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเด็ก เช่น การเล่นกีฬา การเต้นรำ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมในชั้นเรียน ความกล้าแสดงออก ทักษะการสื่อสาร และการทำงานเป็นทีม รวมถึงการควบคุมอารมณ์และการฝึกการตัดสินใจ ทั้งหมดนี้ล้วนมีความสำคัญต่อการพัฒนาความสามารถในการควบคุมตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ
ปรึกษาออนไลน์ (วิธีเลี้ยงดู และการเล่นกับลูก)
Online Mentor Program
: ระยะเวลา 60 นาที/ครั้ง การเลี้ยงดูเด็กในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง และการให้คำปรึกษาจากนักกิจกรรมบำบัดสามารถช่วยเสริมสร้างการพัฒนาของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกช่วงวัยจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของลูกหลานได้ นอกจากการส่งเสริมทักษะด้านภาษาและการพัฒนากล้ามเนื้อแล้ว การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยนักกิจกรรมบำบัดสามารถแนะนำวิธีการปรับสภาพแวดล้อมให้เป็นพื้นที่ที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหา รวมถึงการสร้างกิจกรรมที่สนุกสนานและเหมาะสมกับวัย การพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญและผู้ปกครองคนอื่น ๆ ผ่าน Blog จะช่วยสร้างเครือข่ายสนับสนุนที่เข้มแข็ง ซึ่งจะทำให้ผู้ปกครองรู้สึกไม่โดดเดี่ยวและสามารถแบ่งปันกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการเลี้ยงดูเด็กได้ การมีการสนับสนุนจากชุมชนยังช่วยให้การเลี้ยงดูเป็นไปอย่างมีคุณภาพและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
เตรียมความพร้อม "ก่อนไปโรงเรียน"
UpSkills - PreSchool
: ระยะเวลา 60, 90 นาที/ครั้ง โปรแกรมส่งเสริมทักษะ และเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยเรียนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของเด็กให้พร้อมสำหรับการเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเต็มที่ โดยมีทักษะที่ควรส่งเสริมก่อนวัยเรียนอาทิเช่น - ทักษะการเคลื่อนไหว การพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น การวิ่ง กระโดด หรืองานศิลปะที่ต้องใช้มือ ช่วยให้เด็กมีความคล่องตัว และสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ - ทักษะการเล่นและการเข้าสังคม การเล่นเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น เข้าใจกติกา และการแบ่งปัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเข้าสังคม - ทักษะการคิดวิเคราะห์ การส่งเสริมให้เด็กได้มีโอกาสแก้ปัญหาและคิดวิเคราะห์ในสถานการณ์ต่าง ๆ จะช่วยพัฒนาความสามารถในการตัดสินใจและคิดอย่างเป็นระบบ - ทักษะการช่วยเหลือตนเอง การฝึกให้เด็กสามารถทำกิจกรรมประจำวัน เช่น การแต่งตัว การรับประทานอาหาร จะช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในตนเองและสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น - ทักษะการสื่อสาร การฝึกการสื่อสารทั้งการพูดและการฟังจะช่วยให้เด็กสามารถแสดงออกถึงความคิดและความรู้สึกของตนเอง รวมถึงการเข้าใจผู้อื่น การบูรณาการกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับเด็กในแต่ละกลุ่มจะเป็นการสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการปรับตัวในสังคมและการเรียนรู้ในโรงเรียนในอนาคต ช่วยให้เด็กมีความพร้อมทั้งด้านอารมณ์ สังคม และการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ โดยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำงานเป็นกลุ่ม การเข้าร่วมกิจกรรมศิลปะ หรือการเล่นกีฬา จะช่วยให้เด็กได้ฝึกฝนทักษะเหล่านี้ในสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้และการเติบโตอย่างเต็มที่